ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการใช้ โดรนสอดแนม ของกัมพูชา (เขมร) ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจและเป็นที่จับตามองของหลายฝ่าย
ขีดความสามารถของโดรนสอดแนมกัมพูชา
รายงานข่าวระบุว่า กองทัพกัมพูชาได้นำโดรนเข้ามาใช้ในภารกิจทางทหาร โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน โดรนเหล่านี้ถูกใช้เพื่อ ลาดตระเวนและสอดแนม พื้นที่ รวมถึงฐานที่ตั้งทางทหารของฝ่ายตรงข้าม
- โดรนรุ่นหลัก: มีการกล่าวถึงโดรนรุ่น CW-15 และ CW-40 ที่กัมพูชาจัดหามาจากบริษัท CATIC ของจีน โดยโดรน CW-15 เน้นภารกิจด้านการลาดตระเวนและเป็น “ตาทิพย์” ให้กับกองทัพได้อย่างดี
- การใช้งาน: โดรนเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อเก็บข้อมูลและสอดแนมในพื้นที่ชายแดน รวมถึงในพื้นที่ตอนในบางส่วนของประเทศไทย ซึ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่
บทบาทของโดรนในสถานการณ์ปัจจุบัน
ในช่วงที่มีเหตุปะทะกันตามแนวชายแดน โดรนได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนเกมการรบ กัมพูชาใช้โดรนเพื่อ:
- สอดแนมและชี้เป้า: ใช้บินเหนือที่ตั้งทางทหารของไทยเพื่อเก็บข้อมูลและระบุพิกัดเป้าหมาย
- ปฏิบัติการทางจิตวิทยา: มีการใช้โดรนเพื่อสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในพื้นที่
- สร้างความได้เปรียบ: โดรนเป็นอาวุธที่หาได้ง่ายและมีราคาไม่แพง ทำให้กองทัพขนาดเล็กสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการรบได้
มาตรการรับมือของไทย
ทางการไทยได้ออกมาตรการรับมือกับการรุกล้ำของโดรนสอดแนมจากกัมพูชาอย่างจริงจัง
- คำเตือนและมาตรการป้องกัน: รัฐบาลไทยได้ออกคำเตือนว่า หากพบโดรนของกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทย จะสามารถ ยิงทำลายได้ทันที
- การเฝ้าระวัง: กองทัพไทยได้มีการยกระดับการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจากโดรนอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการใช้มาตรการทางเทคนิคเพื่อตรวจจับและทำลายโดรนเหล่านี้
- การควบคุมการบินโดรนในประเทศ: มีการขอความร่วมมือจากประชาชนให้ งดการบินโดรนทุกประเภท ในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันความสับสนและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
สถานการณ์การใช้โดรนสอดแนมของกัมพูชาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า เทคโนโลยีโดรน ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในสงครามยุคใหม่ ไม่ใช่แค่ในภารกิจสอดแนม แต่ยังรวมถึงการโจมตีและการปฏิบัติการทางจิตวิทยาด้วย